เล่นเพลงกว่า 100 ล้านเพลงแบบไม่มีโฆษณา และฟังเสียงที่มีคุณภาพเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับด้วยเสียงเชิงมิติพื้นที่1 และเสียงแบบ Lossless2 นอกจากนี้ คุณยังสามารถครองเวทีได้ด้วย Apple Music Sing เข้าถึงรายการสัมภาษณ์รวมถึงคอนเสิร์ตแบบสดสุดพิเศษ และฟังได้จากทุกอุปกรณ์ของคุณ ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ บอกเลยว่าแอปเพลงสำหรับคนที่รักในเสียงเพลงอยู่ที่นี่แล้ว
ลองใช้ฟรี 1 เดือน สำหรับสมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 1 เดือน จากนั้นจะมีค่าบริการ ฿139 ต่อเดือน
ลองใช้ฟรี 1 เดือนกับ Apple One
รวม Apple Music กับบริการเยี่ยมๆ อีกสูงสุด 3 บริการเข้าเป็นชุดเดียวกันในราคาต่อเดือนแบบเบาๆ ดูเพิ่มเติม
แผนบริการแบบนักศึกษามาพร้อมกับสิทธิ์ในการใช้ Apple TV+
นักศึกษาสามารถใช้งาน Apple Music ได้ฟรี 1 เดือน พร้อมรับสิทธิ์ในการใช้ Apple TV+
ใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์◊ ตรวจสอบการมีสิทธิ์
คุณสมบัติที่มีในตัวช่วยยกระดับเพลงที่คุณฟังให้ดีขึ้นไปอีกระดับ โดยเพลงต่างๆ ในเสียงเชิงมิติพื้นที่พร้อม Dolby Atmos จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นอยู่รอบตัวคุณ และให้คุณดื่มด่ำกับเสียงได้อย่างเต็มอิ่ม1 ส่วนเสียงแบบ Lossless ก็จะเก็บทุกรายละเอียดที่มีอยู่ในไฟล์บันทึกเสียงต้นฉบับ2 โดยทั้งสองระบบนี้จะเล่นเสียงที่น่าทึ่งในทุกครั้งที่คุณฟัง
เพลงมากกว่า 100 ล้านเพลงรอให้คุณเลือกฟังอยู่ และคุณยังสามารถดูคำแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะในแถบหน้าแรกซึ่งจะแสดงเพลย์ลิสต์และสถานีที่ออกแบบมาให้เหมาะกับรสนิยมของคุณ ส่วนสถานีพบเพลงโดนใจก็จะคัดสรรเพลงใหม่ๆ มาให้ทุกครั้งที่คุณฟัง หรือจะออกสำรวจโลกที่มีเพลงหลากหลายแนวในแถบใหม่ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติเกี่ยวกับศิลปินคนโปรดของคุณที่มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดซักจังหวะ
Peggy Gou
รับชมการแสดงแบบสตรีมสดจากที่นั่งที่ดีที่สุดในบ้านบน Apple Music Live เข้าถึงรายการสัมภาษณ์ที่เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังเกี่ยวกับเพลงและศิลปินที่คุณชื่นชอบ ฟังรายการวิทยุและสถานีระดับท้องถิ่น นานาชาติ รวมถึงรายการและสถานีที่ศิลปินจัดได้ตลอดเวลา และสำรวจอัลบั้มที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในยุคของเราผ่าน 100 อัลบั้มที่ดีที่สุดของ Apple Music
ฟังรายการสดได้ฟรี5
Apple Music Sing มีเพลงให้คุณและเพื่อนๆ ร้องตามได้นับล้านๆ เพลง6 โดยมีเนื้อเพลงที่จะขึ้นมาแบบเรียลไทม์คอยเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง และยังมาพร้อมเสียงร้องที่ปรับแต่งได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณควบคุมระดับเสียงร้องของศิลปินได้ คุณจึงเลือกที่จะเป็นนักร้องนำหรือนักร้องแบ็คอัปได้ตามใจ ส่วนมุมมองการร้องคู่ก็จะแสดงเนื้อเพลงของนักร้องแต่ละคนโดยแสดงไว้ตรงข้ามกัน ดังนั้นการร้องประสานไปด้วยกันจึงเป็นเรื่องง่ายสบายมาก
เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงพร้อมกับเพื่อนๆ ได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เพราะเพลย์ลิสต์ที่ใช้งานร่วมกันให้คุณสามารถชวนให้เพื่อนๆ เพิ่ม ลบ จัดเรียงใหม่ และแสดงความรู้สึกต่อเพลงได้ ดังนั้นคุณจึงต่อติดกับเพื่อนๆ ได้เสมอ แม้ว่าจะอยู่ไกลกัน7 และ CarPlay ที่มาพร้อม SharePlay ก็ยังให้ทุกคนผลัดกันทำหน้าที่ดีเจในระหว่างการเดินทางได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยอีกด้วย
iPhone
iPad
Apple Watch
Mac
Apple TV
HomePod
CarPlay
หารถยนต์ที่รองรับการใช้งาน
Android
ดาวน์โหลดบน Google Play
PC
ดาวน์โหลดบน Microsoft Store
ตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ
Apple Music มีให้บริการใน iTunes และสำหรับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android
แบบนักศึกษา8
฿79/เดือน
แบบบุคคล
฿139/เดือน
แบบครอบครัว9
฿219/เดือน
คุณสมบัติ
แบบนักศึกษา8/แบบบุคคล
แบบนักศึกษา9
100 ล้านเพลงและมากกว่า 30,000 เพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ
ขอเพลง อัลบั้ม เพลย์ลิสต์ หรือสถานีวิทยุไหนก็ได้ ง่ายๆ แค่บอก Siri หรือใช้คุณสมบัติพิมพ์โต้ตอบกับ Siri
สตรีมเพลงได้แบบไม่มีโฆษณา
พบกับรายการต้นฉบับ คอนเสิร์ต และรายการพิเศษ รวมถึงสถานีวิทยุทั้งแบบสดและออนดีมานด์ที่จัดโดยศิลปิน
ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Apple
ใช้งานได้บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ
เสียงเชิงมิติพื้นที่พร้อม Dolby Atmos
เพลงทั้งแค็ตตาล็อกในแบบ Lossless
Apple Music Sing พร้อมเนื้อเพลงที่ขึ้นตามจังหวะและเสียงร้องที่ปรับแต่งได้6
ดาวน์โหลด 100,000 เพลงมาไว้ในคลัง และเข้าถึงทั้งคลังเพลงของคุณจากอุปกรณ์ใดก็ได้แล้วฟังแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ได้
ดูว่าเพื่อนๆ ของคุณกำลังฟังอะไร
ใช้งานได้ไม่จำกัดสำหรับสมาชิกสูงสุด 6 คน
คลังเพลงส่วนตัวสำหรับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว
รายการแนะนำซึ่งปรับแต่งมาสำหรับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว
Apple Music คือบริการสตรีมมิ่งที่ให้คุณฟังเพลงได้กว่า 100 ล้านเพลง และยังมาพร้อมคุณสมบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแทร็คโปรดและฟังแบบออฟไลน์ เนื้อเพลงแบบเรียลไทม์ การฟังบนอุปกรณ์ทุกเครื่องที่คุณชอบ เพลงใหม่ที่เลือกมาให้คุณโดยเฉพาะ ตลอดจนเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยบรรณาธิการของเรา และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์สุดพิเศษและคอนเทนต์ต้นฉบับอีกด้วย
คลัง iTunes ของคุณก็ยังเป็นของคุณอยู่ ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงคอลเลกชั่นทั้งหมดของตัวเองได้จาก Apple Music หรือจาก iTunes บน macOS หรือ Windows
Apple Music นั้นมีอยู่แล้วบน iPhone, iPad, Apple Watch, Apple TV 4K, Mac และลำโพง HomePod ของคุณ และคุณสามารถฟังด้วย CarPlay หรือฟังแบบออนไลน์ทาง music.apple.com/th ก็ได้ นอกจากนี้ Apple Music ยังมีให้บริการทั้งบนอุปกรณ์ Windows และ Android, ลำโพง Sonos, Google Nest, สมาร์ททีวี และอีกมากมาย
ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่คุณเลือก (1) นักศึกษาสามารถเลือก Apple Music แบบนักศึกษาในราคา ฿79 ต่อเดือน (2) สมัครสมาชิกรายเดือนแบบบุคคลในราคาเพียง ฿139 ต่อเดือน หลังหมดช่วงทดลองใช้ฟรี (3) Apple Music แบบครอบครัวให้คุณแชร์บัญชีของคุณกับคนอื่นๆ ได้สูงสุด 5 คน โดยที่สมาชิกแต่ละคนจะมีบัญชีเป็นของตัวเอง ในราคาเพียง ฿219 ต่อเดือน (4) แผนบริการ Apple Music แบบบุคคลทั่วไป และแผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวมีอยู่ใน Apple One ซึ่งเป็นการรวมบริการอื่นๆ ของ Apple สูงสุด 3 บริการเข้าเป็นหนึ่งการสมัครสมาชิกรายเดือน แผนบริการ Apple One เริ่มต้นที่ ฿369 ต่อเดือน
นักศึกษาสามารถเข้าถึงคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของ Apple Music ได้เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้แผนบริการแบบบุคคล เมื่อคุณได้รับการยืนยันสถานะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์ให้ใช้ราคาสมาชิกแบบนักศึกษาเป็นเวลาสูงสุด 4 ปี ตราบใดที่คุณยังเป็นนักศึกษาอยู่ และเมื่อครบ 4 ปี การสมัครสมาชิกของคุณจะดำเนินต่อในราคาสมาชิกแบบบุคคล
ได้ โดยคุณสามารถสนุกเพลิดเพลินกับทุกคุณสมบัติของ Apple Music และ Siri ได้เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับ Siri และแผนบริการ Apple Music แบบใดก็ได้ และทุกแผนยังรองรับคุณสมบัติพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ด้วย
Dolby Atmos คือเทคโนโลยีระบบเสียงซึ่งสร้างประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มสมจริงในแบบที่เสียงมาจากรอบตัวคุณ
สมาชิก Apple Music ที่ใช้ Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV 4K สามารถใช้หูฟังใดก็ได้ฟังเพลงหลายพันแทร็คที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยเมื่อคุณฟังด้วยหูฟัง Apple หรือ Beats หรือหูฟัง Bluetooth ส่วนใหญ่ที่ใช้งานร่วมกันได้ เพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos ก็จะเล่นในแบบ Dolby Atmos โดยอัตโนมัติ สำหรับหูฟังอื่นๆ ให้ไปที่ "การตั้งค่า > เพลง > เสียง" แล้วตั้งค่า Dolby Atmos เป็น "เปิดตลอด" นอกจากนี้คุณยังสามารถฟังเพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยใช้ลำโพงในตัวของ iPhone, iPad, MacBook Pro, MacBook Air หรือ iMac รุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ หรือโดยการเชื่อมต่อ Apple TV 4K กับอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ลำโพง HomePod ที่ตั้งค่าให้เป็นลำโพงเริ่มต้น, ซาวด์บาร์ที่ใช้งานร่วมกับ Dolby Atmos ได้, เครื่องรับสัญญาณ AV ที่รองรับ Dolby Atmos หรือโทรทัศน์ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ที่ เสียงแบบ Lossless คืออะไร และฉันจะฟังได้อย่างไร การบีบอัดเสียงแบบ Lossless เป็นการลดขนาดไฟล์เพลงต้นฉบับโดยที่ยังเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และ Apple Music ก็กำลังทำให้เพลงทั้งหมดในแค็ตตาล็อกที่มีกว่า 100 ล้านเพลงเป็นเสียงแบบ Lossless ในความละเอียดที่แตกต่างกัน โดยใน Apple Music นั้น "Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดสูงสุด 48kHz ในขณะที่ "Hi‑Res Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 48kHz ถึง 192kHz อย่างไรก็ตาม ไฟล์ Lossless และ Hi‑Res Lossless มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งยังใช้แบนด์วิดท์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงกว่าไฟล์ AAC แบบมาตรฐานมาก คุณสามารถฟังเสียงแบบ Lossless ได้โดยใช้แอป Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV 4K เพียงแค่เปิดใช้งานเสียงแบบ Lossless ใน "การตั้งค่า > เพลง > คุณภาพเสียง" ซึ่งคุณสามารถเลือกระหว่าง Lossless และ Hi‑Res Lossless สำหรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi‑Fi แต่ทั้งนี้ Hi‑Res Lossless จะต้องใช้กับอุปกรณ์ภายนอก อย่างตัวแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อกแบบ USB ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ ได้ที่ สามารถแชร์กับครอบครัวได้หรือไม่ ได้ แผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวให้คุณใช้งานร่วมกับสมาชิกได้สูงสุด 6 คน โดยที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติเต็มรูปแบบและแค็ตตาล็อกทั้งหมดของ Apple Music หากต้องการเริ่มใช้งาน เพียงตั้งค่า "การแชร์กันในครอบครัว" บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS, โทรศัพท์ Android หรือ Mac ของคุณ แล้วเชิญสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้เลย มีโฆษณาหรือไม่ Apple Music ไม่มีโฆษณา ฉันมีสิทธิ์รับข้อเสนอ Apple Music ฟรีนาน 3 เดือนหรือไม่ ฉันจะรับสิทธิ์ได้อย่างไร สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 3 เดือน เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV คุณต้องตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ของคุณ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ AirPods, HomePod หรือลำโพงหรือหูฟัง Beats คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ Apple Watch คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด โดยคุณมีระยะเวลา 3 เดือนในการรับสิทธิ์จากข้อเสนอหลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ครั้งแรก◊ ร่วมงานกับ Apple Music Apple Music สนับสนุนศิลปินด้วยเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์ เผยแพร่ โปรโมท และวัดผลเพลงบนเวทีระดับโลก แล้วถ้าอยากสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนคลับเมื่อมีเพลงออกใหม่ ก็ทำได้ด้วยชิ้นงานสื่อโซเชียลที่สวยงามและปรับแต่งได้ รวมถึงฉลองช่วงเวลาสำคัญเมื่อยอดเล่นเพลง ยอดค้นหาเพลงใน Shazam และยอดเพิ่มเพลงลงในเพลย์ลิสต์ถึงเป้าด้วย Milestones รวมถึงยังมีอีกหลากหลายวิธีในการโชว์ผลงานบน Apple Music ไม่ว่าจะเป็น MusicKit, ฟีด RSS, วิดเจ็ต, แนวทางสำหรับแบรนด์, ป้ายกำกับ และอื่นๆ Apple Music สำหรับศิลปิน โครงการ Performance Partners ของ Apple
การบีบอัดเสียงแบบ Lossless เป็นการลดขนาดไฟล์เพลงต้นฉบับโดยที่ยังเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และ Apple Music ก็กำลังทำให้เพลงทั้งหมดในแค็ตตาล็อกที่มีกว่า 100 ล้านเพลงเป็นเสียงแบบ Lossless ในความละเอียดที่แตกต่างกัน โดยใน Apple Music นั้น "Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดสูงสุด 48kHz ในขณะที่ "Hi‑Res Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 48kHz ถึง 192kHz อย่างไรก็ตาม ไฟล์ Lossless และ Hi‑Res Lossless มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งยังใช้แบนด์วิดท์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงกว่าไฟล์ AAC แบบมาตรฐานมาก
คุณสามารถฟังเสียงแบบ Lossless ได้โดยใช้แอป Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV 4K เพียงแค่เปิดใช้งานเสียงแบบ Lossless ใน "การตั้งค่า > เพลง > คุณภาพเสียง" ซึ่งคุณสามารถเลือกระหว่าง Lossless และ Hi‑Res Lossless สำหรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi‑Fi แต่ทั้งนี้ Hi‑Res Lossless จะต้องใช้กับอุปกรณ์ภายนอก อย่างตัวแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อกแบบ USB
ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ ได้ที่ สามารถแชร์กับครอบครัวได้หรือไม่ ได้ แผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวให้คุณใช้งานร่วมกับสมาชิกได้สูงสุด 6 คน โดยที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติเต็มรูปแบบและแค็ตตาล็อกทั้งหมดของ Apple Music หากต้องการเริ่มใช้งาน เพียงตั้งค่า "การแชร์กันในครอบครัว" บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS, โทรศัพท์ Android หรือ Mac ของคุณ แล้วเชิญสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้เลย มีโฆษณาหรือไม่ Apple Music ไม่มีโฆษณา ฉันมีสิทธิ์รับข้อเสนอ Apple Music ฟรีนาน 3 เดือนหรือไม่ ฉันจะรับสิทธิ์ได้อย่างไร สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 3 เดือน เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV คุณต้องตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ของคุณ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ AirPods, HomePod หรือลำโพงหรือหูฟัง Beats คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ Apple Watch คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด โดยคุณมีระยะเวลา 3 เดือนในการรับสิทธิ์จากข้อเสนอหลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ครั้งแรก◊
ได้ แผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวให้คุณใช้งานร่วมกับสมาชิกได้สูงสุด 6 คน โดยที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติเต็มรูปแบบและแค็ตตาล็อกทั้งหมดของ Apple Music หากต้องการเริ่มใช้งาน เพียงตั้งค่า "การแชร์กันในครอบครัว" บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS, โทรศัพท์ Android หรือ Mac ของคุณ แล้วเชิญสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้เลย
Apple Music ไม่มีโฆษณา
สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรี 3 เดือน เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV คุณต้องตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ของคุณ เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ AirPods, HomePod หรือลำโพงหรือหูฟัง Beats คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุด เมื่อต้องการรับสิทธิ์จากข้อเสนอนี้สำหรับ Apple Watch คุณต้องเชื่อมต่อหรือจับคู่อุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ของคุณกับ iPhone ที่ใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด โดยคุณมีระยะเวลา 3 เดือนในการรับสิทธิ์จากข้อเสนอหลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ครั้งแรก◊
Apple Music สนับสนุนศิลปินด้วยเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์ เผยแพร่ โปรโมท และวัดผลเพลงบนเวทีระดับโลก แล้วถ้าอยากสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนคลับเมื่อมีเพลงออกใหม่ ก็ทำได้ด้วยชิ้นงานสื่อโซเชียลที่สวยงามและปรับแต่งได้ รวมถึงฉลองช่วงเวลาสำคัญเมื่อยอดเล่นเพลง ยอดค้นหาเพลงใน Shazam และยอดเพิ่มเพลงลงในเพลย์ลิสต์ถึงเป้าด้วย Milestones รวมถึงยังมีอีกหลากหลายวิธีในการโชว์ผลงานบน Apple Music ไม่ว่าจะเป็น MusicKit, ฟีด RSS, วิดเจ็ต, แนวทางสำหรับแบรนด์, ป้ายกำกับ และอื่นๆ