รัฐบัญญัติคุ้มครองผู้ป่วยและการบริบาลที่เสียได้
รัฐบัญญัติคุ้มครองผู้ป่วยและการบริบาลที่เสียได้ (อังกฤษ: Patient Protection and Affordable Care Act) มักย่อเป็นรัฐบัญญัติการบริบาลที่เสียได้ (ACA) และมีชื่อเล่นว่า โอบามาแคร์ (Obamacare) เป็นกฎหมายกลางของสหรัฐซึ่งรัฐสภาสหรัฐที่ 111 เป็นผู้ตรา และประธานาธิบดีบารัก โอบามาลงนามเป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 ภายใต้รัฐบัญญัตินี้ โรงพยาบาลและแพทย์ปฐมภูมิจะเปลี่ยนเวชปฏิบัติของพวกตนทั้งด้านการเงิน เทคโนโลยีและคลินิกเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น ราคาถูกลง และปรับปรุงวิธีการกระจายและการเข้าถึงได้
รัฐบัญญัติการบริบาลที่เสียได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณภาพและการเสียได้ของประกันสุขภาพ ลดอัตราผู้ไม่ได้เอาประกันโดยขยายความคุ้มครองของประกันและลดราคาของบริการสุขภาพ รัฐบัญญัติฯ ริเริ่มกลไกซึ่งรวมถึงการมอบอำนาจ เงินอุดหนุนและตลาดประกัน[ต้องการอ้างอิง] รัฐบัญญัติฯ ยังกำหนดให้ผู้ประกันยอมรับผู้สมัครทุกคน ครอบคลุมรายการจำเพาะและคิดเบี้ยประกันอัตราเดียวโดยไม่คำนึงถึงภาวะก่อนหน้านี้หรือเพศ[1]
รัฐบัญญัติฯ ก่อให้เกิดการลดจำนวนและร้อยละของผู้ไม่มีประกันสุขภาพอย่างสำคัญ โดยประเมินไว้ระหว่าง 20-24 ล้านคนที่ได้รับความคุ้มครองระหว่างปี 2559[2][3] การเพิ่มรายจ่ายด้านบริการสุขภาพโดยรวมชะลอลงนับแต่นำกฎหมายนี้ไปปฏิบัติ ซึ่งรวมเบี้ยประกันสำหรับแผนประกันที่อาศัยนายจ้าง[4] สำนักงานงบประมาณของรัฐสภารายงานในการศึกษาหลายครั้งว่ารัฐบัญญัติฯ จะลดการขาดดุลงบประมาณ และการยกเลิกจะเพิ่มการขาดดุล[5][6]
นับแต่เริ่มนำไปปฏิบัติ ผู้คัดค้านใช้คำว่า "โอบามาแคร์" เรียกรัฐบัญญัติฯ และต่อมาผู้อื่นก็นำไปใช้ด้วย[7]
กฎหมายและการนำไปปฏิบัติเผชิญการคัดค้านในรัฐสภาและศาลกลาง และจากรัฐบาลของบางรัฐ กลุ่มผลประโยชน์อนุรักษนิยม สหภาพแรงงานและองค์การธุรกิจขนาดย่อม ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐสนับสนุนความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการมอบอำนาจปัจเจกของรัฐบัญญัติฯ ว่าเป็นการใช้อำนาจเก็บภาษีของรัฐสภา[8] วินิจฉัยว่าไม่สามารถบังคับรัฐให้เข้าร่วมการขยายเมดิเคด (Medicaid) ของรัฐบัญญัติฯ[9][10][11] และวินิจฉัยว่าเงินอุดหนุนของกฎหมายนี้เพื่อช่วยปัจเจกบุคคลในการจ่ายประกันสุขภาพมีได้ในทุกรัฐ ไม่เพียงเฉพาะในรัฐที่จัดตั้งตลาดของรัฐเท่านั้น[12]
กฎหมายนี้เป็นการยกระดับระเบียบที่สำคัญที่สุดในระบบบริการสุขภาพของสหรัฐ ร่วมกับการแก้ไขรัฐบัญญัติบริการสุขภาพและการปรองดองการศึกษา (Health Care and Education Reconciliation Act) นับแต่การผ่านเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเดดในปี 2508
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ObamaCare Survives the Supreme Court: 5 Takeaways". The Week. June 28, 2012. สืบค้นเมื่อ June 30, 2012.
- ↑ แหล่งเดิม (Report)เมื่อ December 9, 2016. สืบค้นเมื่อ November 23, 2016.
- ↑ Uberoi, Namrata; Finegold, Kenneth; Gee, Emily (March 2, 2016). แหล่งเดิมเมื่อ December 5, 2011. สืบค้นเมื่อ December 7, 2016.
- ↑ "Employer Health Benefits 2015". Kaiser Family Foundation. สืบค้นเมื่อ November 19, 2016.
- ↑ แหล่งเดิม (Report)เมื่อ June 22, 2015. สืบค้นเมื่อ June 19, 2015.
- ↑ แหล่งเดิมเมื่อ October 10, 2012. สืบค้นเมื่อ April 6, 2012.
- ↑ Wallace, Gregory (June 25, 2012). "'Obamacare': The word that defined the health care debate". CNN. สืบค้นเมื่อ September 4, 2012.
- ↑ ABA Health eSource (July 12, 2012). "Supreme Court Upholds PPACA". สืบค้นเมื่อ November 20, 2013.
- ↑ Pg 55–58, slip opinion, National Federation of Independent Business v. Sebelius, U.S. Supreme Court (June 28, 2012)
- ↑ Barrett, Paul M. (June 28, 2012). "Supreme Court Supports Obamacare, Bolsters Obama". BloombergBusinessweek. สืบค้นเมื่อ June 30, 2012.
- ↑ National Post Wire Services (June 28, 2012). "Obamacare upheld by the U.S. Supreme Court". National Post. สืบค้นเมื่อ June 30, 2012.
- ↑ "Supreme Court Approves Obamacare Subsidies on Healthcare.gov". CNBC. June 25, 2015. สืบค้นเมื่อ January 21, 2017.